โรงเรียนสุขานารี ตั้งอยู่ในที่ดินราชพัสดุเลขที่ 6690 ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ถนนโพธิ์กลาง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา
ทิศเหนือ ติดถนนโพธิ์กลาง
ทิศใต้ ติดถนนจอมสุรางค์ยาตร์
ทิศตะวันออก ติดวัดแจ้งใน และเมรุสมานมิตร
ทิศตะวันตก ติดวัดแจ้งนอก และศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 1 เทศบาลนครนครราชสีมา
วันเริ่มตั้งไม่มีหลักฐานแน่นอน เนื่องจากสูญหายไประหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากทหารญี่ปุ่นมาใช้อาคารเรียนเป็นที่พัก
เมื่อ พ.ศ. 2484-2486 ต้องขนย้ายเอกสารต่าง ๆ ไปฝากไว้ที่ห้องพัสดุอำเภอเมือง นครราชสีมา เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
จึงได้ขนย้ายกลับมาดังเดิมแต่ได้มาไม่ครบ จึงต้องอาศัยการใช้หลักฐานจากการบอกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อราว พ.ศ. 2460
ในสมัยที่พระยาราชสีมาจารย์ ดำรงตำแหน่งธรรมการมณฑลนครราชสีมา และยังไม่มีโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงในมณฑลนี้
ท่านจึงได้ดำริตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงขึ้น ได้เลือกที่ดินเป็นที่ดินราชพัสดุ พื้นที่ 21 ไร่เศษ อยู่ระหว่างวัดแจ้งนอกกับวัดแจ้งใน
เป็นที่ตั้งโรงเรียน โดยใช้เงินผลประโยชน์ของสุขาภิบาล ตำบลโพธิ์กลาง เป็นค่าปลูกสร้างอาคารเรียน เสร็จแล้วจึงต้องใช้ชื่อโรงเรียนว่า “สุขานารี”
เปิดรับนักเรียนหญิงเข้าเรียนโดยเฉพาะ เรื่อยมาและต่อมาอีก 5-6 ปี นักเรียนหญิงเรียนชั้นสูงมากขึ้นเป็นการ ไม่ปลอดภัยที่จะให้มาเรียนไกลเมือง
ทางราชการจึงย้ายนักเรียนหญิงชั้นมัธยมไปเรียนที่วัดสุทธจินดา ตั้งชื่อโรงเรียนใหม่ว่า “สุรนารีวิทยา” จึงนับได้ว่า โรงเรียนสุขานารีเป็นโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดแห่งแรกของจังหวัดนครราชสีมานั่นเอง ซึ่งต่อมาได้ย้ายไปอยู่ริมถนนมิตรภาพและอยู่มาจนกระทั่งบัดนี้
ส่วนโรงเรียนสุขานารีเหลือแต่เด็กเล็ก ๆ จึงรับเด็กชายเข้าเรียนด้วย เลยกลายสภาพเป็นโรงเรียนประชาบาล ครั้งเมื่อมีการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นขึ้น โรงเรียนสุขานารีเปลี่ยนเป็นโรงเรียนเทศบาลตั้งแต่ พ.ศ. 2480 ถึง พ.ศ. 2487 จึงโอนกลับมามาขึ้นกรมสามัญศึกษา ในระหว่างขึ้นกับเทศบาลทางเทศบาลได้ใช้ที่ดินไปสร้างศูนย์ บริการสาธารณสุขส่วนหนึ่งกับการสร้างเมรุสมานมิตรขึ้นอีกส่วนหนึ่งที่ดินของโรงเรียนสุขานารี จึงเหลืออยู่เพียง 13 ไร่ 7 ตารางวา จนถึงทุกวันนี้
ในวันที่ 1 ตุลาคม 2523 โอนไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติตามพระราชบัญญัติโอนกิจการโรงเรียนประชาบาลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและโรงเรียนกรมสามัญศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2523 ปัจจุบันโรงเรียนสุขานารีสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2546
พ.ศ.2503 เปิดสอนชั้นมัธยมสายสามัญ ปีที่ 1-3 ชั้น ต่อมาอีก 5 ปี เปลี่ยนชั้น ม.1-ม.3 เป็น ป.5-ป.7
พ.ศ.2509 ขณะที่โรงเรียนประชาบาลทั่วไปถูกโอนไปขึ้นกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด โรงเรียนสุขานารีได้รับการสงวนไว้
เป็นโรงเรียนปรับปรุงของสามัญศึกษา
พ.ศ.2511 ได้รับการคัดเลือกเป็นโรงเรียนในการทดลองเลื่อนชั้นโดยสอบปลายปี เป็นบางชั้นของเขตการศึกษา 11
ผลการทดลองได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
พ.ศ.2511 ได้เข้าใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเลื่อนชั้นบางชั้นในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ.2511
และใช้มาจนแก้ไข พ.ศ.2519 ด้วย
พ.ศ.2520 กรมสามัญศึกษาสั่งให้ยุบชั้นเรียนเด็กเล็ก ลดชั้น ป.1 และ ป.5 ลงร้อยละ 25 แล้วให้เปิดรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
จำนวน 2 ห้อง มีนักเรียน 80 คน
พ.ศ.2521 กรมสามัญศึกษาสั่งให้งดรับชั้น ม.ศ.1 และได้โอนนักเรียนซึ่งมาเรียนในชั้น ม.ศ.2 ให้แก่โรงเรียนบุญวัฒนา
วันที่ 1 ตุลาคม 2523 โอนไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติตามพระราช บัญญัติโอนกิจการโรงเรียนประชาบาลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและโรงเรียนกรมสามัญศึกษา กระทรวง ศึกษาธิการไปขึ้นกับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ
ปีการศึกษา 2535 เริ่มเปิดสอนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 จำนวน 2 ห้องเรียน
วันที่ 7 กรกฎาคม 2546 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 มีผลบังคับใช้โรงเรียนที่สังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กรมสามัญศึกษา และกรมวิชาการเข้าร่วมกันตามภารกิจของแต่ละส่วนราชการเดิม เพื่อให้เกิดการจัดการศึกษา
อย่างเต็มระบบไปตามที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 บัญญัติไว้ โรงเรียนสุขานารีจึงถูกโอนไปสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ มีฐานะเป็นนิติบุคคล และเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน